วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ประวัติที่มาของแม่กลองนิวเวย์


ประวัติที่มาของแม่กลองนิวเวย์
 เริ่มจากการเรียนรู้ถึงประสบการณ์ ให้การบริการ-การประชาสัมพันธ์แก่นักเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก ที่เดินทางมาท่องเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวก    เรียกได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยชีวิต โดยอาศัยสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยว เป็นโรงเรียน และมีนักท่องเที่ยวนานาชาติเปรียบเสมือนเป็นครูผู้สอนให้เรียนรู้ถึง     ข้อมูลองค์ประกอบสำคัญการประชาสัมพันธ์ถึงข้อมูลของการเดินทาง และการบริการโดยเริ่มการให้ข้อมูล-ตอบข้อซักถาม นับจากปี 2537    ซึ่งไม่ได้รับและเรียกร้องค่าตอบแทนจากการบริการใดๆทั้งสิ้น แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนในแต่ละวันเดือนปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ   ด้วยความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนสร้างภาพพจน์ที่ดีต่อการเป็นเจ้าบ้านที่ดี และได้ให้ความช่วยเหลือในทุกๆเรื่องที่นักท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อน นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็น แบล็คแพ็คเกอร์ หรือกลุ่มสะพายเป้ ในสายตาของสังคมที่ไม่เข้าใจถึงความต้องการความละเอียดอ่อน แบล็คแพ็คเกอร์ เสมือนถูกมองว่ากลุ่มมีกำลังบริโภคน้อย และจิ๊กโก๋กลุ่มตังค์น้อย เมื่อได้สัมผัสและให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะเวลาที่เขาอาศัยพักที่บ้านเรา ทำให้เราได้รู้ว่ากลุ่มแบล็คแพค ท่องเที่ยวสไตล์ E-cotourism เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลายอาชีพ เราต้องเข้าใจว่าทั้งโลกมีคนดีและไม่ดี การเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้องหยิบยื่นแต่สิ่งที่ดี ดีหมายถึงนำเสนอสิ่งที่ไม่สร้างความเสียหายให้กับสังคมชนบท และประเทศชาติโดยรวม เขาก็จะเกรงใจ เวลาที่มีนักท่องเที่ยวไปพักด้วยที่บ้านจะนำเสนอการดูแลด้วยลักษณะวิถีชีวิตความเป็นไทย การให้ เช่นให้เปลี่ยนผ้าอาบน้ำ นุ่งห่มแบบไทย ร่วมกิจกรรมการเก็บมะพร้าวแล้วมาช่วยกันเผา เวลากลางคืนวัดไหน มีหนังกลางแปลง มีงิ้ว มีลิเก จะพาไปเที่ยวชม และการแลกเปลี่ยนภาษา พอสรุปได้ว่ายุคปัจุบันนิยมเรียกกันว่า “โฮมสเตย์” คือมันต้องเป็นไปสภาพวิถีชีวิตที่เราเป็นอยู่แบบดั่งเดิม กางมุ้งให้นอน สอนให้รู้ถึงความเป็นอยู่ของคนไทยในแต่ละภาคที่เขาไปเที่ยว ทำให้แขกที่มาเยือนได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมพื้นบ้านที่เข้ามาร่วมอาศัยชั่วคราว เมื่อย้อนหลังกลับไปตอนเริ่มดำเนินการใหม่ๆ หลายคนมองว่าเราเป็นคนบ้า เราได้เรียนรู้ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบที่นักท่องเที่ยวประสพและได้สร้างผลเสียต่อภาพพจน์ของความเป็นไทย เราเป็นกุญแจดอกเล็กๆที่อยู่นอกสายตาว่าทำแล้วจะได้อะไร เราได้สุขใจที่ทำหน้าที่ของคนไทยในท้องถิ่นที่อาศัยถึงจิตสำนึกร่วมทำดีเพื่อแผ่นดินของเรา สิ่งที่เราได้เป็นมูลค่ามหาศาลทางปัญญา และการได้เรียนรู้ถึงจุดอ่อนจุดแข็งของการให้บริการต่อแขกที่มาเยือนให้ได้รับความประทับใจอย่างไร จากนั้นตามแนวคิดทำอย่างไรให้เกษตรกรได้มีส่วนโอกาสได้รับรายได้โดยตรงจากนักท่องเที่ยว และทำอย่างไรให้สายน้ำคูคลองที่กำลังตกตะกอนและตื้นเขินที่จะก่อผลให้เกิดออกซิเจนเป็นประโยชน์ต่อสายน้ำ จึงพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์น้ำเพื่อชีวิตและธรรมชาติ การพัฒนาการทำงานเราเรียนรู้คู่กับการปฎิบัติเริ่มจากการสำรวจ การบันทึกภาพ การวางมุมมองของภาพ และข้อความที่นำเสนอ ต้องเน้นเนื้อหาสาระแห่งความเป็นจริง และสื่อการแปลภาษาสู่...ผู้ที่มาขอรับบริการปี2540-2542 ได้รับการ
 บันทึกเทปโทรทัศน์หลายรายการ เช่น ๑ ในเมืองไทย, เที่ยวเมืองไทย,สบายๆ...ไทยแลนด์ ,มอร์นิ่งทอค์, เมืองไทย...เมืองยิ้ม ฯลฯ ทั้งไทยและต่างประเทศ และในปี 2543 ได้รับรางวัลไทยแลนด์ทัวร์ริสซึมอะวอร์ด ประเภทรางวัลดีเด่นตลาดท่องเที่ยวในประเทศไทย รางวัลที่ได้รับคือ...การเสียสละและการเรียนด้วยตนเองบนจุดยืนของผู้ยึดแนวทาง การทำดีที่หวังผลตอบแทน...เรียนรู้...ได้ทำสิ่งที่ดี....แล้วสบายใจ อีกทั้งยังได้เรียนภาษาจากครูต่างชาติโดยตรง และยังเป็นตัวชี้วัดอีกว่าเราไม่ได้บ้าอย่างที่ถูกจับตามอง ในความเป็นจริงของการพัฒนาการท่องเที่ยวจุดขายคือ...ทุนเดิมที่เป็นศิลปะทางอาชีพ ศาสนา ธรรมชาติ ในท้องถิ่นที่มีอยู่ ต้องเข้าใจร่วมใจและหันกลับมามองร่วมมรดก ทางวัฒนธรรม กันรักษา โดยหลีกเลี่ยงนำสิ่งที่ไม่ใช่มาเป็นจุดขายที่สวนทางความต้องการเรียนรู้ของนักท่องเที่ยวที่มามาเยือนท้องถิ่น หลังจากปี2543-2549 ได้มุ่งเน้นการเรียนรู้ถึงการเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงบนพื้นที่สวนเกษตรธรรมชาติบนสายน้ำ